‘ไม่เลื่อน’ 4 วันหยุดนักขัตฤกษ์พฤษภาคม
เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2563 รายงานข่าวจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีแจ้งว่า ‘ไม่เลื่อน’ 4 วันหยุดนักขัตฤกษ์พฤษภาคม ในวาระพิจารณาเรื่องวันหยุดนักขัตฤกษ์ของเดือนพฤษภาคมหลังจากที่ประชุม ศบค. ได้เสนอให้เลื่อนวันหยุด ทั้ง 4 วันในเดือนพฤษภาคม ประกอบด้วยวันแรงงาน 1 พฤษภาคม , วันฉัตรมงคล วันที่ 4 พฤษภาคม , วันวิสาขบูชา วันที่ 6 พฤษภาคม และวันพืชมงคล วันที่ 11 พฤษภาคม ออกไปก่อนเพื่อไม่ให้มีวันหยุดนั้นพร้อมให้เหตุผลว่า เนื่องจากช่วงวันที่ 1-11 พ.ค. มีวันหยุดใกล้กันหลายวัน เมื่อรวมวันหยุดเสาร์-อาทิตย์แล้ว อาจจะมีผู้ลาเพิ่มให้ได้วันหยุดติดต่อกันหลายวัน
- ‘ไม่เลื่อน’ 4 วันหยุดนักขัตฤกษ์พฤษภาคม
- สาเหตุที่เปลี่ยนแปลงไม่เลื่อนวันหยุด
- ขยายเวลางดทางเข้า-ออก ของประเทศ
- ย่้ำการผ่อนปรนมาตรการ
สาเหตุที่เปลี่ยนแปลงไม่เลื่อนวันหยุด
เมื่อวันที่ 27 เม.ย. ได้เสนอให้เลื่อนวันหยุด ทั้ง 4 วันในเดือนพ.ค. ประกอบด้วย วันแรงงาน 1 พ.ค.,วันฉัตรมงคล 4 พ.ค., วันวิสาขบูชา 6 พ.ค. และวันพืชมงคล 11 พ.ค. ออกไปก่อน ไม่ให้เป็นวันหยุดนั้นปรากฏว่าที่ประชุม ครม.มีความเห็นตรงกันข้ามโดยมีมติ ‘ไม่เลื่อน’ 4 วันหยุดนักขัตฤกษ์พฤษภาคม และให้คงวันหยุดทั้ง 4 วันเหมือนเดิม เพียงแต่มีเงื่อนไขว่าเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจะต้องเข้มงวดในมาตรการต่างๆทั้งเรื่องสาธารณสุขเรื่องการคมนาคมการรักษาความปลอดภัย โดยให้เหตุผลว่าเนื่องจากช่วงวันที่ 1-11 พ.ค. มีวันหยุดใกล้กันหลายวัน เมื่อรวมวันหยุดเสาร์-อาทิตย์แล้ว อาจจะมีผู้ลาเพิ่มให้ได้วันหยุดติดต่อกันหลายวัน
เป็นเหตุให้การเดินทางข้ามจังหวัด เสี่ยงต่ออุบัติเหตุและการแพร่โรคจึงขอให้ประชาชนอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ งดเดินทางไปต่างจังหวัด ผู้บังคับบัญชาควรพิจารณาให้ลาหยุดเพิ่มหรืองดให้บริการรถโดยสารทางไกล เจ้าหน้าที่จะต้องเพิ่มความเข้มงวดตามด่านตรวจ ซึ่งวันหยุดทั้งเดือนพฤษภาคม ประกอบด้วย
-
- วันที่ 1 พ.ค. วันแรงงาน
- วันที่ 4 พ.ค. วันฉัตรมงคล
- วันที่ 6 พ.ค. วันวิสาขบูชา
- วันที่ 11 พ.ค. วันพืชมงคล
นายกรัฐมนตรีรายงานถึงผลการประชุมคณะรัฐมนตรีว่าจะไม่มีการเลื่อนวันหยุดราชการประจำเดือนพฤษภาคม 2563 ให้เป็นวันหยุดของรัฐวิสาหกิจหรือวันหยุดแรงงานตามปกติ แต่ขอให้เพิ่มความเข้มงวดของมาตรการ Social Distancing เพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
ขยายเวลางดทางเข้า-ออก ของประเทศ
ซึ่งนอกจาก ‘ไม่เลื่อน’ 4 วันหยุดนักขัตฤกษ์พฤษภาคม ได้มีการรายงานให้มีการขยายระยะเวลางดเดินทาง เข้า – ออก ทั้งทางบก ทางเรือ และทางอากาศ ของประเทศไทยเป็นการชั่วคราวจนถึงวันที่ 31 พ.ค. 63 เนื่องจากสายการบินในหลายประเทศก็หยุดให้บริการเหลือเพียงการขนส่งสินค้า และการนำคนไทยกลับจากต่างประเทศรวมถึงยังคง มาตรการเคอร์ฟิว ในช่วงเวลาเดิม คือ 22.00 น. – 04.00 น. รวมถึงมาตรการงดหรือชะลอการเดินทางข้ามจังหวัด เพื่อลดการแพร่ระบาดอย่างไรก็ตามประชาชนยังคงต้องระมัดระวังการทำกิจกรรมในพื้นที่ที่มีความแออัด เช่น กิจกรรมทางศาสนา เพื่อสุขภาพของตนเองและครอบครัว
ย้ำการผ่อนปรนมาตรการ
ส่วนเรื่องการย้ำการผ่อนปรนมาตรการ นอกเหนือจากที่ ‘ไม่เลื่อน’ 4 วันหยุดนักขัตฤกษ์พฤษภาคม ท่านนายกรัฐมนตรี ยังย้ำว่า จะผ่อนปรนมาตรการ แบ่งออกเป็นระยะ แบบค่อยเป็นค่อยไป โดยพิจารณาจากความเสี่ยงของกิจกรรมจากน้อยไปมาก มีมาตรการคู่มือในการตรวจสอบประเมินผลตามมาตรการสาธารณสุขในพื้นที่เหล่านั้น นอกจากนี้ สถานประกอบการยังเตรียมมาตรการของตนเพิ่มเติม เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนว่าสถานที่นั้นปลอดจากเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็น COVID-19 Free เช่น เจ้าหน้าที่พนักงานผ่านการตรวจหาโรคก่อนเปิดให้บริการ ในระดับท้องถิ่นให้ขึ้นอยู่กับกระทรวงมหาดไทย
ซึ่งแน่นอนว่าการประกาศขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นั้นส่งผลกระทบต่อและสร้างความสูญเสียต่อธุรกิจไม่น้อยทำให้ สภาพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ ได้เสนอมาตรการการผ่อนปรน ในธุรกิจต่างๆ โดยแบ่งธุรกิจได้เป็น 4 อย่าง สีขาว – สีเขียว -สีเหลือง และสีแดง ซึ่งแต่ละกลุ่มจะเปิดระยะห่างกัน 14 วัน เริ่มจาก สีขาว ที่เสี่ยงน้อยสุดก่อน ดังนี้
- สีขาว คือ มีความจำเป็นในชีวิตประจำวัน สถานประกอบการขนาดเล็กอยู่ในที่โล่งแจ้ง
- สีเขียว ธุรกิจขนาดเล็กรวมถึงติดแอร์ และไม่มาก หรือสนามออกกำลังกายกลางแจ้ง
- สีเหลือง มีพื้นที่ติดจำนวนคนมาก ๆ
- สีแดง พื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง อย่างสนามมวย สถานบันเทิง
*ขอบคุณข้อมูลข่าวสารจาก kapook*
- ไทยพบผู้ติดเชื้อ โควิด-19 เพิ่ม 53 ราย
- กราบขอพรตะเคียนทอง เจ้าแม่มัจฉาวารี
- ศบค.-สมช.’เห็นควรขยายเคอร์ฟิว
- โควิด19เสียชีวิตมีภาวะเบาหวานร่วม 41%
เว็บเลขไทยเด็ด ศูนย์รวมแนวทางเด็ดๆ คลิกที่นี่
สรุป
สำหรับบทความที่นำเสนอเมื่อสักครู่นี้ ท่านใดที่ต้องการทราบข้อมูลและข้อสรุปของวันหยุด และทาง ครม.ได้มีมติออกมายืนยันแล้วว่า ‘ไม่เลื่อน’ 4 วันหยุดนักขัตฤกษ์พฤษภาคม แต่ขอให้ประชาชนทุกท่านๆได้ทำตามกฏหมายของทางรัฐบาลเพื่อที่จะลดผู้ติดเชื้อโดยนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้เลือกกิจการมาแล้วสามารถเปิดได้ทั่วทั้งประเทศ ไม่ใช่เปิดได้เพียงบางพื้นที่ โดยมอบให้สภาพัฒน์ ไปพูดคุยในรายละเอียดช่วงบ่ายวันนี่และจะนำเข้าสู่ที่ประชุมครม.ต่อไป พร้อมยืนยันว่าวันนี้ในที่ประชุมไม่ได้ลงรายละเอียดเจาะจงเป็นกิจการอย่างที่ปรากฎเป็นข่าว เช่นร้านตัดผม หรือร้านอาหาร และยังไม่ได้กำหนดวัน-เวลา ที่สามารถเริ่มการผ่อนปรนได้ ที่ปรากฎเป็นข่าว 4 พ.ค. นี้